iRss by iGetWeb

ติดต่อเรา

Tue, 03 Jan 2017 17:11:34 +0700

ติดต่อเรา ที่ตั้ง : 2 ถ. วัฒนานุกิจ ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โทรศัพท์ : 038-443128 แฟกซ์ : 038-445193 มือถือ : ผึ้ง 089-1801123 น้ำ 089-9365822 สำนักงานขาย 089-1109043 เว็บไซต์ : http://www.pumpnum.comEmail : pumpsaksiri@gmail.com LINE ID : @xnu0207y (อย่าลืมใส่ @ นะจ๊ะ) วันและเวลาทำการ : จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00 น. หลังธนาคารกรุงไทยสาขาบ้านบึง GPS 13.312364, 101.114154

ปั๊มติดรถไถขวัญใจชาวสวน

Tue, 18 Nov 2014 12:17:43 +0700

บ่ายวันหนึ่งผมกำลังนั่งง่วงอยู่ พอดีมีชาวสวนคนหนึ่งชื่อเฮียเสือ บอกว่าอ่านหนังสือมาจากเคหะการเกษตรมานาน มาขอคำปรึกษาว่าอยากจะส่งน้ำไกล 800 เมตร จากบ่อน้ำไปถึงสวน ไม่มีไฟฟ้า และไม่มีคนเฝ้า เมื่อใช้ปั๊มน้ำเสร็จแล้วต้องเอามาเก็บได้ กลัวหายมีขโมยเยอะ ได้ฟังแล้วแหม!!?? ปัญหาเยอะจัง แต่ก็ไม่ยากครับ ปัญหาของท่านคืองานของเราครับ ผมก็ถามว่ามีเครื่องยนต์ไหม ก็บอกว่าไม่มี?? ถามว่ามีรถไถไหม?? ตอบว่ามีขนาด 35 แรง ผมโล่งอกครับ ก็บอกว่าตกลงใช้รถไถฉุดปั๊มน้ำได้ครับ เฮียเสือบอกว่ามีสาลี่ด้วย ใช้ตั้งปั๊มน้ำได้ไหมครับ ผมก็คิดดูว่าไม่เหมาะเลยบอกว่าใช้สาลี่ขับยากกว่าไม่ดีครับ ใช้ต่อเป็นโครงเหมือนเครื่องตัดหญ้าดีกว่าครับ เฮียเสือมองผมด้วยความสงสัย แต่ก็ตกลงต่อเป็นโครงเหมือนเครื่องตัดหญ้าถามผมว่ามีแบบให้ดูไหม ผมบอกว่ารูปหายไปหมดแล้วผมก็บอกว่าคล้ายเครื่องตัดหญ้าแหละครับ ผมก็ถามต่อว่าจะใช้ท่อกี่นิ้วเฮียเสือบอก 2 นิ้วครับ ผมก็ โห!! ท่อค่อนข้างเล็กเลยตอบว่าไม่ไหวๆ ท่อเล็กไปมีความฝืดในเส้นท่อสูง ถ้าส่งน้ำไปไกลถึง 800 เมตร จะทำให้ได้น้ำน้อยไม่คุ้มค่าน้ำมันถ้าใช้ปั๊มน้ำแรงๆๆ ท่อก็จะแตกก่อนครับ ผมเลยแนะนำให้ใช้ท่อ 4 นิ้ว คำนวนราคาท่อแล้ว เฮียเสือ บอกว่าไม่ไหวเหมือนกันเงินไม่พอครับ ก็เลยตกลงกันว่าพบกันคนละครึ่งทาง ใช้ท่อ 3 นิ้วได้น้ำน้อยหน่อย ผมนัด 10-15 วัน มารับปั๊มได้ จากนั้นผมก็เริ่มทำโคลงเครื่องโดยใช้เหล็กฉาก 3 นิ้วเป็นโคลงเชื่อมตามรูปแบบภาพ เนื่องจาเพลา PTO ท้ายรถไถมีรอบช้า ไม่พอกับรอบปั๊มน้ำผมจึงต้องเพิ่มรอบโดยใช้ มู่เล่ย์สายพานทดรอบให้เร็วขึ้น 1:4 เท่าครับ ผมสร้างเพลาตุ๊กตาทดรอบอีก 1 ชุด ตามภาพ ใช้เพลาส่งกำลังของเครื่องตัดหญ้ามาใช้ไม่ต้องซื้อใหม่ ถอดจากเครื่องตัดหญ้ามาใส่เลยครับ ส่วนปั๊มผมใช้หอยโข่งแรงสูงรอบช้า 1450-1850 รอบต่อนาที ใบพัดหมุนขวา ต้องติดตั้งตามรูป แต่ถ้าหมุนซ้ายก็กลับปั๊มได้ครับ ปั๊มน้ำตัวนี้ให้น้ำได้ 20-30 คิว/ชม. ครับ ส่วนท่อทางดูดทางส่งน้ำผมใช้แบบสวมเร็วบอลจ๊อยท์ 3 นิ้ว เพื่อสะดวกในการใช้งาน ครับก็เป็นอันแก้ปัญหาของเฮียเสือได้หมด ทุกข้อ 1. ไม่มีเครื่องยนต์ ใช้เครื่องยนต์จากรถไถ2. ไม่มีไฟฟ้า ก็ใช้เครื่องยนต์จากรถไถ3. ไม่มีคนเฝ้า เราก็เอาปั๊มกลับบ้านได้4. มีขโมยเยอะ เราก็เอาปั๊มกลับบ้าน5. เป็นปั๊มที่เหมาะกับชาวสวนทั่วไปเพราะใช้ได้เอนกประสงค์6. เป็นแบบที่ทนทานซ่อมง่าย ตัวปั๊มใส่ได้ทั้งปั๊มทำนา และปั๊มทำสวน7. เป็นโคลงแบบที่สร้างไม่ยากสามารถดูรูปแล้วสร้างเองได้8. ราคาที่ผมทำปั๊มตัวนี้ 50000 บาท ครับ แต่ถ้าทำเองก็คงเหลือ 30000 บาทครับ สุดท้ายโคลงเครื่องสูบน้ำแบบนี้สามารถเอาไปแปลงใส่กับเครื่องพ่นยาก็ได้ขยายโคลงให้ใหญ่หน่อยใส่ถังน้ำยาดี 500 ลิตร จะใช้คนเดินพ่นยาหรือจะใช้รถพ่นเองก็ได้ครับ ******ขอให้ท่านมีความสุขกับการทำงานสวัสดีครับ******

แพปั้มน้ำสำหรับสวนมะนาว 30 ไร่

Wed, 15 Oct 2014 12:43:19 +0700

วันหนึ่ง ตอนสายๆๆ มีชาวสวนแต่งตัวดี วัย 30 คนหนึ่งมาหาดูท่าเป็นคนสมัยใหม่ชื่อคุณสวัสดิ์ ถือ ipad มาด้วย มาขอปรึกษาเรื่องปั๊มน้ำ จะทำสวนมะนาว 30 ไร่ เปิดรูปใน ipad ให้ดูมีรูปสวน มีแผนผังการวางท่อมีร่องสวนที่เพิ่งยกขึ้นใหม่ เป็นแถวๆๆ มีรูปบ่อน้ำเพิ่งขุดใหม่ประมาณ 2 ไร่ ผม : เออจะว่าไปคนเดี๋ยวนี้ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมีรูปภาพสวนให้เราดูชัดเจนเลย ผม : จะใช้เครื่องยนต์ หรือใช้ไฟฟ้าครับคุณสวัสดิ์ : ใช้ไฟฟ้าครับ ผมขอไฟไว้ 15 แอมป์ 220 โวล์ตผม : อืม...ถ้าไฟบ้าน 220 โวล์ต 15 แอมป์ จะใช้ได้ดีกับมอเตอร์ 3 แรงม้า ใช้มากกว่านั้นกินไฟมากเกินไป เวลาสตาร์ทจะกินไฟถึง 3 เท่า และถ้าเกิดไฟตกมอเตอร์จะไหม้ ถ้าอย่างนั้น สวน 30 ไร่ ใช้ไฟสองสายค่อนข้างงานหนัก ผมแนะนำให้ใช้มอเตอร์ 3 แรง 2 ตัว โดยมอเตอร์ 3 แรง 1 ตัวกินไฟ 15 แอมป์ 2 ตัวกินไฟ 30 แอมป์ ก็เปิดมอเตอร์ทีละตัวไฟจะได้ไม่กระชากมากจะประหยัดไฟ ก็เป็นปั๊มติดกับมอเตอร์ในตัว 3 แรง รอบ 2900 rpm head ประมาณ 15-30 เมตร Q ประมาณ 10-28 m3/hคุณสวัสดิ์ : แล้วทำงานพร้อมกันสองตัวได้ไหมครับ ?ผม : มีตัวต่อเชื่อมกันครับ ให้ทำงานตัวเดียว หรือ สองตัวก็ได้ โดยมีวาล์วกันกลับคอยปิดเปิดน้ำให้อัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องลงแพไปปิดเปิดเอง ตัวเดียวให้น้ำ 10-15 คิว สองตัวให้น้ำได้ถึง 30 คิว/ชม. ทางดูดผมใส่กรองกันขยะให้ กันหอยเข้าไปติดใบพัดมอเตอร์เสียหาย เรียกว่าวายแสตนเนอร์ครับ ทั้งนี้มีมอเตอร์ปั๊มน้ำแล้ว ยังต้องมีตู้ควบคุมไฟ มอเตอร์ทั้งสองตัว ให้ทำงานตามที่เราต้องการ และยังป้องกันไฟตกและไฟเกิน มอเตอร์ทำงานเกินโหลด หรือไฟรั่ว ตู้นี้ก็จะตัดไฟ กันมอเตอร์ไหม้ได้ผม : บ่อน้ำลึกกี่เมตรครับคุณสวัสดิ์ : ประมาณ 4 เมตรครับผม : ถ้าบ่อน้ำมีระดับปกติน้ำลึก 4 เมตร ในหน้าแล้งลึกกว่า 8 เมตร บ่อน้ำ 2 ไร่ไม่พอให้น้ำมะนาว 30 ไร่หรอกครับคุณสวัสดิ์ : บ่อน้ำนี้อยู่ใต้เขื่อนเก็บน้ำมีน้ำน้ำซึมจากเขื่อนมาที่บ่อครับผม : งั้นก็ไม่มีปัญหาครับ ผมแนะนำให้ทำแพ เอาปั๊มลงแพจะดูดน้ำได้ดีกว่าอยู่ข้างบนฝั่ง 20-30% เลยครับคุณสวัสดิ์ : งั้นตกลงครับ แล้วแพผมควรใช้ขนาดไหนครับผม : ต่อแพขนาด 2x3 เมตร 1 หลัง เอาปั๊มว่างบนแพใช้ถัง 200 ลิตร 6 ใบ ใส่โฟมเต็มถังเมื่อถังรั่วมีโฟมอยู่ในถังแพก็จะไม่จม 100%แบบแพ ถัง 6 ใบ ใช้ท่อปะปา 1 นิ้วครับคุณดูแบบแล้วทำเองได้ แท่นปั๊มแยกกับแพ ผมลดระดับแท่นปั๊มน้ำ ให้ต่ำเพื่อให้การทรงตัวของแพดีไม่โคลงไปโคลงมาผม : ใช้หัวให้น้ำแบบไหนครับ ถ้าเป็นแบบน้ำมาก 300-500 ลิตร/ชม. ก็ไม่ต้องใช้กรองดีสครับคุณสวัสดิ์ : ผมจะใช้แบบมินิสปริงเกอร์ขนาด 75-120ลิตร/ชม. ครับผม: ถ้าอย่างนั้นต้องใช้กรองดีส เพราะว่ากรองดีสจะช่วยกรองน้ำให้ไม่มีตะกอนกันหัวมินิสปริงเกอร์ตัน ทั้งสวนในไม่ช้า ขนาด 80-120 เมท ขนาด 3 นิ้ว 1 ตัว คุณสวัสดิ์ : โอเคครับ ถ้างั้นต่อกรองดีส 3 นิ้วให้ผมอีก 1 ตัว ส่วนสายส่งน้ำผมใช้สายอ่อนท่อดูด 3 นิ้วยาว 12 เมตรแปลงมาเป็นสายส่งน้ำจากแพขึ้นฝั่ง ไปต่อเข้ากับกรองดีส และจากกรองดีสก็ต่อเข้าท่อในสวนเลย เพิ่มเติม เรื่องตู้คอนโทล ผมติดตั้งไว้บนฝั่งเพื่อสดวกกับการใช้งานและเดินสายไฟไปที่มอเตอร์บนแพยาว 20 เมตร สุดท้ายแพและปั๊มขนาดเล็กนี้เหมาะกับชาวสวน 10ไร่ - 30 ไร่ เมื่องานเกษตรที่เมืองทองผมพูดเรื่องแพ และบอกว่าจะเขียนลงในหนังสือเคหการเกษตรก็ลงแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบทความ นำความรู้นี้ไปปรับใช้ ให้เป็นประโยชน์กับ สวนของท่านครับ

ปั้มน้ำใช้ในสวนทุเรียน

Wed, 15 Oct 2014 12:30:47 +0700

ณ สวนทุเรียน จันทบุรี คุณ สนธิ หนุ่มใหญ่ ไฟแรง มีสวนทุเรียนของตัวเอง 30 ไร่ มีงานอดิเรกรับจ้างต่อระบบน้ำให้ชาวสวนบริเวณใกล้เคียง เป็นสมาชิกคนหนึ่งที่ติดตามอ่านบทความที่ผมเขียนในหนังสือ นิตยสารเคหะการเกษตรประจำ วันนี้หอบเอกสารแผนที่สวนมาปรึกษาการว่างท่อระบบน้ำในสวน ประมาณ 220 ไร่ บอกว่าไม่เคยทำสวนใหญ่กลัวน้ำจะไม่ไหลตามกำหนดที่ตั้งไว้ ผมก็ได้แนะนำระบบท่อเมนให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับปริมาตรน้ำในสวน ส่วนระบบ ท่อย่อยก็เห็นว่าออกแบบมาพอใช้ได้แล้วแก้ไขนิดหน่อยคำนวณน้ำให้พอดีกันระบบท่อ แบ่งวาล์วให้พอดีกับน้ำที่จ่ายมา เป็นที่พอเข้าใจแล้วก็กลับไปทำหลายวันต่อมา ก็เอาปั๊มตากิ 2 ใบพัด 4 x 3 นิ้วมาให้ซ่อม 1 ตัว สภาพเก่ามาก บอกว่าจะใช้ชั่วคราวก่อนเดี๋ยวจะสั่งใหม่ แต่ผมคิดในใจว่า (ทำชั่วคราวแต่ใช้ชั่วโคตรแน่เลย) แต่ก็ไม่คิดอะไรเพราะส่วนมากเป็นแบบนี้ ผมเปลี่ยนแปลงท่อดูดจากเดิมขยายจาก 4 นิ้วเป็น 6 นิ้ว ท่อทางส่งจาก 3 นิ้วป็น 4 นิ้ว เครื่องยนต์ดีเซลล์สี่สูบ 75 แรงเก่ามาก แต่ยังติดได้อยู่ แก้ไขแท่นให้แข็งแรงขึ้นเชื่อม ดามเหล็ก บางส่วน เครื่องนี้ไม่ใช้หม้อน้ำใช้น้ำจากปั๊มมาหล่อเย็นผมไม่ได้แก้ไขอะไร ขยายความนิดหนึ่งเครื่องยนต์ไม่ใช้หม้อน้ำ ใช้น้ำจากปั๊มใหญ่ หล่อเย็นแทน ทำให้เครื่องเย็นเกินไป ทำให้น้ำมันเครื่องข้นหล่อลื่นไม่ดี ลูกสูบแหวนไม่ขยายตัวเพราะไม่ร้อน ทำให้ความอัดตก เครื่องกำลังลดลง ต้องเร่งเครื่องทำให้กินน้ำมันมากขึ้น มีดินทรายเข้ามาในเสื้อสูบสะสมจนน้ำเข้าเสื้อสูบได้น้อยเกิดความร้อนสูง เสื้อสูบแตกหรือไหม้ เครื่องพัง เป็นเรื่องที่ชาวสวนควรรู้ครับ สภาพเครื่องปั้มหลังซ่อมแล้วครับ กลับเข้าเรื่องต่อครับคุณสนธิก็เอาเครื่องที่ผมซ่อมปั๊มแปลงแท่นแล้วกลับไปติดตั้ง โทรกลับมาว่าได้น้ำดีมาก กว่าเก่าเป็นเท่าตัว เป็นผลจากท่อดูดและท่อส่งจากเดิมดูด 4 นิ้วส่ง 3 นิ้ว ขยายเป็นดูด 6 นิ้วออก 4 นิ้วครับ ก็งานนี้แฮปปี้ คุณสนธิได้ชื่อเสียง ผมได้ความสุขใจ ผ่านไปอีกเดือนคุณสนธิ ก็มาหาผมอีกครั้ง บอกว่าคราวนี้จะใช้ไฟฟ้า บอกว่าลงไฟไว้ 160 กิโลวัตต์ มาสั่งมาปั๊มพร้อมมอเตอร์อีก 1 ชุด ให้น้ำสวน 80-100ไร่ คำนวณ ปริมาตรน้ำที่ 100คิว/ชม. ส่งสูงที่ 60 เมตร ต้องเผื่อแรงสปริงเกอร์อีก 15 เมตร ระยะไกลถึงปลายสวน 500 เมตร เผื่ออีก 15 เมตร รวม 90 เมตร ผมให้ใช้ปั๊ม 6 x 5 นิ้ว 3 ใบพัด 1450 รอบ ใช้มอเตอร์ 100 แรงให้น้ำได้100 คิว แรงส่งน้ำใด้ 95 เมตร ผมให้ขยายท่อดูดเป็น 8 นิ้วท่อทางส่งขยายเป็น 6 นิ้ว ผมใช้เวลาทำ 15 วันคุณ สนธิ ก็มารับ ปั๊มน้ำและอุปกรณ์ไป ผ่านไป 20 วัน คุณสนธิ ก็โทรกลับมาใหม่ บอกว่าอาจารย์ปั๊มสูบน้ำไม่ขึ้น ผมปล้ำมา 5 วันแล้ว ทำไงดีครับ เอาละซิงานเข้าแล้ว! สอบถามลักษณการต่อท่อแล้วก็ถูกต้อง ที่ผิดก็คือดูดสูง 5เมตร แต่ที่ 5 เมตรก็น้ำขึ้นเพียงแต่ได้น้ำน้อยลง ปั๊มน้ำเกือบทุกชนิดจะดูดน้ำลึกในแนวดิ่งได้ 9 เมตร แต่ที่ 5-9 เมตรจะได้น้ำน้อยลงไปเรื่อยๆๆจนไม่คุ้มค่าพลังงานครับ ผมก็เลยบอกให้ลองเอาท่อดูดแบบเป็นสายอ่อนท่อน้ำไทยขนาด 4 นิ้วยาว 12 เมตรไปลองดูด ดู ผลปรากฏว่าน้ำขึ้น คุณสนธิก็บอกว่าใช้ 4 นิ้วก็ได้ครับอาจารย์ผมใช้มา 5 วันแล้ว ผมก็บอกว่า มันได้น้ำน้อยกว่าใช้ท่อ 8 นิ้วมากถึง 4 เท่าเลย แต่ที่น้ำท่อ 4 นิ้วมันขึ้นก็แสดงว่าท่อ 8 นิ้วต้องมีอะไรที่ไม่ถูกต้องแน่นอน การวางท่อดูดที่ไม่ลาดเอียง ผมให้ไปถ่ายรูปท่อดูดมาอย่างละเอียดมาให้ผมดูใหม่ ผมดูท่อดูดที่ต่อตรงแนวระดับฉากยาว 6 เมตร ไม่ลาดเอียง บวกกับมีแสตนเนอร์ (กรองน้ำทางดูด) มันจะมีชั้นน้ำอยู่ภายใน ทำให้มีอากาศค้างอยู่ในท่อดูดที่ยาว 6 เมตร ทำให้น้ำไม่ขึ้น ผมให้ว่างท่อลาดเอียงลงไปจากปั๊มลาดต่ำลงไปอีก 10 นิ้ว ลองกรอกน้ำเดินปั๊มใหม่ ผลปรากฎว่าน้ำขึ้นดีและแรงดีกว่า 4 นิ้วมากทำให้คุณสนธิหมดความสงสัยในความรู้ที่ผมบอกไปเพราะทำได้จริง จากเรื่องนี้ทำให้คุณสนธิรู้ ความสำคัญของการว่างขนาดท่อน้ำ และการวางท่อดูดที่ถูกต้องทำให้ได้น้ำเต็มประสิทธิภาพของปั๊ม เสียค่าน้ำมันหรือไฟฟ้าลดลงอย่างคาดไม่ถึง ครับนี่ก็เป็นเรื่องราวของชาวสวนคนหนึ่งที่ผมนำมาเล่าสูให้ท่านสมาชิกฟัง เพื่อเรียนรู้ข้อผิดพลาด และความรู้บางส่วนที่ทำให้การใช้ปั๊มน้ำได้น้ำมากขึ้น ก็ขอขอบคุณที่ติดตามบทความมาตลอด สวัสดีครับ

การเริ่มต้นใช้งาน ปั้มน้ำและปั้มดับเพลิง

Wed, 15 Oct 2014 11:35:47 +0700

คู่มือการเริ่มต้นใช้งาน ปั๊มน้ำและปั๊มดับเพลิง 1. ตรวจดูเครื่องสูบน้ำยังอยู่ปกติ (ไม่หาย)มีอุปกรณ์ครบ เดินรอบๆๆไม่มีอะไรปิดบังหรือว่างทับ ไม่มีงู ไม่มีหมา ไม่มีเสือหรือ ขโมย อยู่ในห้อง!!! เมื่อเราเดินเข้าไปห้องปั๊มน้ำไม่หายไปไหน ไม่มีใครเอาของมาวางทับหรือวางใกล้เครื่องสูบน้ำหรือวางขวางทางทำงานไม่สะดวกห้ามมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่เลี้ยงอยู่ในห้องอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ หรือเครื่องปั๊มน้ำเสียหาย 2. ตรวจดูตารางการใช้งานเมื่อครั้งที่แล้วปกติหรือไม่ ผู้ใดเป็นผู้ใช้ เครื่องปั๊มน้ำควรมีตารางการทำงานทุกครั้งที่ใช้ ทำให้เรารู้ถึงการใช้งาน การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เวลาการซ่อมบำรุง คำนวนต้นทุนได้ถูกต้อง 3. ตรวจดู น้ำมันเครื่อง น้ำมันเชื่อเพลิง น้ำมันหล่อลูกปืนปั๊ม น้ำมันเลี้ยงปั๊มดูดน้ำอัตโนมัติ ให้มีอยู่ในขีดกำหนด และจดความสิ้นเปลืองการใช้เดิมด้วย เป็นเรื่องที่เราต้องให้พนักงานที่ใช้ทำ และเพื่อเป็นข้อมูล 4. ตรวจ น้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ น้ำกลั่นแบตเตอรี่ ให้มีอยู่ในขีดกำหนดเสมอ ถ้าน้ำในหม้อน้ำไม่มี หรือรั่วหมด หมายความถึงเครื่องพังนะครับ ส่วนน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ถ้าขาดแห้งบ่อยๆๆแบตเตอรี่ ก็เสียเร็ว ครับ 5. ปิดวาล์วทางส่งน้ำให้เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกันน้ำกระแทกท่อและวาล์วเสียหาย การรี่วาล์ว ทำให้น้ำไม่ไปกระแท็กท่อหลุด แตก เมื่อเราเผลอเร่งเครื่องกระชากเพื่อไล่อากาศในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง 6. ลองสตาร์ทเครื่องดู ว่าหมุนหรือไม่ ถ้าไม่หมุน ต้องหาสาเหตุแก้ไขก่อน เช่น แบตเตอรี่หาย! หรือไฟหมด! ไดสตาร์ทหาย! ถ้าปกติ มันเป็นการตรวจอย่างรวดเร็ว ถ้าเราสตาร์ท แล้วเครื่องหมุนนั่นแสดงว่าทุกอย่างอยู่ครบ และพร้อมใช้งาน 7. เราเร่งเครื่องไปที่ 25% ลองสตาร์ทให้เครื่องติดเดินเครื่องเบาๆๆฟังเสียงเครื่องปกติไม่สั่นสะเทือน ปั๊มน้ำจะมีระบบดูดน้ำอัตโนมัติ น้ำจะขึ้นภายใน 60 วินาที และจะตัดการทำงานเมื่อแรงดันน้ำเกิน 3 บาร์ ถ้าปั๊มน้ำไม่มีระบบดูด เราก็ต้องกรอกน้ำก่อนติดเครื่องยนต์ 8. เมื่อเครื่องติดแล้วน้ำขึ้นแล้ว เราค่อยๆๆเปิดวาล์วให้สุด แล้วไปเร่งเครื่องช้าๆๆไปถึงรอบใช้งาน ดูเกจวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง เกจไฟชาร์จ เกจวัดแรงดันน้ำ เกจวัดแรงดูดเป็นปกติ เกจวัดแรงดันน้ำต้องขึ้นตามกำหนด เครื่องวิ่งเรียบไม่สะดุด ไม่มีเสียงผิดปกติ ไม่หนักเกินไป 9. ห้ามวิ่งเครื่องยนต์รอบช้าจะทำให้ใบพัดแตก เพลาฉีก ปั๊มเสียหาย เป็นความคิดปกติของคนส่วนมากที่รู้สึกว่า เมื่อเร่งเครื่องมากจะกินน้ำมันจึงพยายามเร่งเครื่องให้น้อยๆๆ ทำให้เครื่องสั่นเดินไม่เรียบ เป็นผลทำให้ร่องลิ่มใบพัดแตก ใบพัดหลุดเสียหาย เป็นส่วนมาก 10. ห้ามทดลองเครื่องโดยปั๊มไม่มีน้ำ จะทำให้ซีล หรือบรูสที่เพลาปั๊ม ไหม้เสียหาย อย่างน่าเสียดาย ซื้อปั๊มมาใหม่ก็อยากลอง ติดเครื่องเอามือปิดดูว่ามีลมแรงไหม หรือดูว่ามันหมุนแล้วสั่นไหม ในขณะที่ไม่มีน้ำอยู่ในปั๊ม ถ้าซีลไหม้ซีลอย่างดีก็ตัวละเป็นหมื่น ถ้าเพลากับบรูสไหม้ติดกัน จะทำให้ต้องเปลี่ยนเพลาและบรูสใหม่ ก็หลายหมื่น ครับ ตัวนี้เพลาไหม้ติดแล้วมอเตอร์ไหม้ด้วย สวนลำใย สอยดาวครับ 11. เดินตรวจดูรอบๆๆเครื่องสูบน้ำ ว่าไม่มีเสียงดังผิดปกติ ไม่มีน้ำหรือน้ำมันเครื่องรั่วไหลออกมาเกินกำหนด เครื่องยนต์ทำงานอยู่ ให้ตรวจดูเกจวัดความร้อนให้ขึ้นไม่เกิน 90 องศา ไฟชาร์จ ไฟแรงดันน้ำมันเครื่องปกติจะดับ 12. ควรมีพนักงาน คุมเครื่องสูบน้ำขณะเครื่องทำงานดูเกจวัดต่างๆๆการรั่วไหลของน้ำที่แกนปั๊มน้ำ ไม่เกิน 1หยด / วินาที การสั่นสะเทือนและเสียง 13. ก่อนดับเครื่องทุกครั้งต้องค่อยๆๆปิดวาล์วส่งน้ำเพื่อกันน้ำกระแทกทำให้ใบพัดและเพลาปั๊มน้ำเสียหาย สวิทช์ดับเครื่องอยู่ที่ ข้างๆๆปั๊มเชื้อเพลิง ให้บิดมาทางซ้าย วาล์วจะตัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องจะดับเอง 14. ลงรายงานการใช้เครื่องสูบน้ำเวลา ปริมาตรน้ำ เชื่อเพลิง ผู้ใช้ปั๊มน้ำ 15. ถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง ทุก 3 เดือน ที่ใช้งาน 16. เป่ากรองอากาศทุก 3 เดือน หรือทุกครั้งที่ถ่ายน้ำมันเครื่อง 17. เปลี่ยนกรองน้ำมันโซล่าทุก 2-4 เดือน 18. ทุก 6 เดือน เปลี่ยนปะเก็นเชือกแกนเพลาปั๊มตัดเป็นวงสับปากไม่ตรงกันเพื่อกันน้ำรั่ว 19. ต้องมีการติดเครื่องทดลองสูบน้ำ ฉีดน้ำวนกลับบ่อ โดยตั้งแรงดันเท่าใช้งานจริงครั้งละ 30 นาทีทุกๆ 15 หรือ 30 วัน 20. ทุก 3 เดือนควรมีการซ้อม ดับเพลิงเหมือนจริงโดยใช้หัวฉีดดับเพลิงที่ ติดตั้งไว้ทุกจุด 21. ทำสมุดรายงานการทำงาน การตรวจงานการซ่อมประจำวัน ประจำเดือน บำรุงรักษา ทำสมุดรายงาน ประจำ 3 เดือน ประจำ 6 เดือน ประจำปี

สุดยอดคำภีร์ คู่มือ เครื่องปั้มน้ำดับเพลิง

Mon, 09 Jun 2014 21:33:47 +0700

เป็นข้อคิดและคำแนะนำการใช้งานเครื่องปั้มน้ำดับเพลิงเพื่อให้เกิดมีประสิทธิภาพสูงสุด >>>>>>>>>>>>อ่านต่อเพิ่มเติมคลิกที่นี่ดาวน์โหลดคู่มือ<<<<<<<<<<<<<<<<<< คู่มือการติดตั้ง 1. เครื่องสูบน้ำจะต้องตั้งอยู่บนพื้นที่แข็งแรงไม่เอียงไม่ทรุด - เคยมีเครื่องที่วางไว้ใกล้บ่อน้ำไหลตกน้ำลงไปก็มี 2. ต้องมีบริเวณว่างๆๆรอบเครื่องสูบน้ำ 1.5 - 2 เมตร เพื่อสะดวกในการทำงาน 2.1 เวลาซ่อมบำรุงสะดวกเช่น เติมน้ำมัน เปลี่ยนกรอง เปลี่ยนอะไหล่ เครื่องปั๊มน้ำ 3. ผนังห้องทั้งสี่ด้านต้องโปร่งมีช่องระบายอากาศได้ดี มีคานไว้ยกเครื่องไปซ่อม 3.1 ถ้าระบายอากาศ ไม่ดี ภายในห้องมีไอเสียปะปน เข้าไป ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีแรง ต้องเร่งเครื่อง ทำให้เครื่องกินน้ำมันมากขึ้น ควรมีคานไว้ยกปั๊มหรือเครื่องไปซ่อม ดีกว่าคนยกอาจตกแตกหักเสียหายได้ 4. ต้องมีไฟแสงสว่าง ระหว่างทางเดิน หน้าห้อง และภายในห้อง อย่างชัดเจนเมื่อเวลาเกิดไฟไหม้ จะได้รีบมาที่ห้องเครื่องดับเพลิงได้โดยเร็วไม่เสียเวลา 5. ต้องมีป้ายบอกห้องเครื่องสูบน้ำดับเพลิงและกระดานตารางแสดงการทำงานเจ้าหน้าที่ดูแล ชม. การทำงาน การซ่อมบำรุง การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทราบการทำงานของปั๊มน้ำ อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องถามใคร 6. ทางเดินไปห้องเครื่องดับเพลิง ต้องสว่าง ห้ามว่างสิ่งของกีดขวางเกะกะทางเดิน และในห้องเครื่องดับเพลิงดับเพลิง……………… เมื่อเกิดไฟไหม้ มีวัสดุกองขวางห้องดับเพลิงกว่าจะย้ายของออกเปิดห้องดับเพลิงได้ ไฟก็ลุกลามไปมากจนดับไม่ได้แล้ว.. 7. ประตูห้องต้องกว้างพอที่รถจะบรรทุกเครื่องสูบน้ำไปซ่อมได้โดยไม่ต้องพังข้างฝาทุกครั้ง ประตูห้องเครื่องสูบน้ำควรออกแบบไว้ ให้ใหญ่พอที่ เครื่องสูบน้ำเข้าออกได้สะดวก 8. ห้ามผู้อื่นเข้าห้องดับเพลิง ห้ามหยิบยืมอะไหล่เช่นแบตเตอรี่หรือน้ำมันเชื้อเพลิง ของห้องดับเพลิงเด็ดขาด - เคยมีเหตุเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วเครื่องยนต์ไม่ติดทำงาน เพราะไม่มีน้ำมัน เพราะไม่มีแบ็ตเตอรี่ กุญแจสวิทซ์สต๊าท์เครื่องยนต์หาย เพราะมีคนเข้ามาหยิบยืมไป โดยคิดว่าไม่เกิดเหตุไฟไหม้ง่ายๆๆ 9. เครื่องสูบน้ำต้องติดตั้งใกล้น้ำที่สุด ความสูงจากน้ำไม่เกิน 4 เมตร ไกลไม่เกิน 12เมตร ท่อทางดูดต้อง โตกว่าทางดูดปั๊มหนึ่งขนาดเสมอ และต่อให้ลาดเอียง 50:1 เพื่อกันอากาศค้างในท่อดูด 9.1 ถ้าตั้งเครื่องสูบน้ำอยู่ไกลจากบ่อน้ำหลายสิบเมตร ระดับน้ำลึกเกิน 4 เมตร ทำให้ดูดน้ำได้ช้าหรือน้ำไม่ขึ้น ไฟก็ไหม้หมดแล้ว 10. ท่อทางดูดห้ามต่อโค้งขึ้นโค้งลงข้ามคันดินข้ามถนนทำไห้มีอากาศขังในท่อทำให้น้ำขึ้นน้อยหรือไม่ขึ้น 10.1 การต่อท่อทางดูดปั๊มน้ำต้องไม่รั่ว 100% น้ำจึงจะขึ้นดี 11. ท่อทางดูดห้ามมีท่อแยกดูดสองทาง มีวาล์วปิดเปิดอาจลืมเปิดหรือเปิดผิดวาล์วทำให้มีอากาศรั่วจากท่อจากวาล์วทำให้น้ำไม่ขึ้น ระบบดับเพลิงไม่ทำงาน อันตรายมาก 11.1 เมื่อเกิดเพลิงไหม้เวลาที่รวดเร็วที่จะนำน้ำมาดับเพลิงเป็นสิ่งสำคัญควรลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยที่สุดดังนั้นไม่ควรมีวาล์วทางดูดเพื่อกันความผิดพลาด 12. หัวกระโหลกต้องโตกว่าท่อหนึ่งขนาด เป็นแบบบานพับ ถ้าเป็นแบบสปริงต้องโต กว่าสองขนาดเสมอเพื่อให้น้ำไหลเข้าดี 12.1 ไม่ควรใช้กะโหลกแบบสปริงเพราะน้ำไหลเข้าไม่ดีทำให้น้ำออกน้อยหรือไม่แรง 13. ท่อทางดูด ต้องมีกรองกันขยะเข้าปั๊มน้ำ ซึ่งทำให้น้ำเข้าน้อย ใบพัดปั๊มน้ำจะแตกหักเสียหาย เรียกว่าวายแสตนเนอร์ 13.1 เคยมีรองเท้าแตะ ผ้าขม้า เศษเหล็กเข้าไปในใบพัดปั๊มน้ำทำให้ปั๊มชำรุดเสียหาย 14. ท่อทางดูดต้องมีข้ออ่อนยาง กันท่อที่หนักและน้ำในท่อทับปั๊มน้ำทำให้แตกเสียหาย 14.1 นอกจากนี้ยังทำให้ ปั๊มเสื้อแตก ขาหัก ยอยฉีก เพลาปั๊มขาด ล้วนเกิดจากเหตุนี้ทั้งสิ้น 15. ท่อทางส่งน้ำต้องมีวาล์วไล่อากาศ วาล์วปิดน้ำก่อนเดินเครื่อง และวาล์วกันกลับกันน้ำกระแทกปั๊ม 15.1 เมื่อมีอากาศค้างอยู่ในปั๊มในท่อบางส่วนไปกันน้ำให้ไหลไม่สะดวกทำให้น้ำไม่แรง จึงต้องมีวาล์วไล่อากาศตัวนี้ระบายอากาศออกไปน้ำจึงจะแรง 16. ห้ามใช้เครื่องสูบน้ำดับเพลิงไปถ่ายน้ำหรือรดน้ำต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อเกิดเพลิงไหม้จริงแล้วไม่มีน้ำ หรือเครื่องไม่ทำงาน 16.1 เมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วเครื่องไม่ติด หรือน้ำมันหมด ไฟก็ไหม้หมดแล้ว 17. บ่อน้ำดับเพลิงต้องกันไว้ 30-50 M3 ห้ามใช้ไปทางอื่น มีตัวอย่างเกิดเพลิงไหม้น้ำบ่อดับเพลิงไม่มีน้ำ!!! 17.1 ควรกันไว้เป็นพิเศษห้ามใช้น้ำบ่อนี้อย่างเด็ดขาดจะเกิดเพลิงไหม้เมื่อไหร่เราไม่รู้เราไม่สามารถเตรียมน้ำได้ทันใน 5 นาทีก็หมดแล้ว 18. ห้องเครื่องสูบน้ำดับเพลิงต้องแยกห่างจากอาคารใหญ่ หรืออาคารที่มีเชื้อเพลิง เมื่อเกิดไฟไหม้ไกล้หรือติดห้องดับเพลิง ไม่สามารถไปใช้เครื่องดับเพลิงได้ - เมื่อหลายปีก่อนเกิดแท็งค์เก็บน้ำมันที่โรงกลั่นภาคตะวันออกเกิดไฟไหม้ ได้รับความเสียหายมากมายมีสาเหตุหนึ่งก็คือรถดับเพลิงและเคมีดับเพลิงอยู่ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่สามารถเอารถดับเพลิงและเคมีดับเพลิงออกมาใช้ได้เพราถูกไฟไหม้หมดนั่นเอง 19. ต้องมีพนักงานที่มีความรู้ ผ่านการอบรมเครื่องดับเพลิงอย่างน้อย 2 คน ทดลองติดเครื่องใช้งานจริง อย่างน้อยเดือนละครั้ง 19.1.เมื่อพนักงานใช้เครื่องดับเพลิงไม่เป็น ก็เหมือนไม่มีเครื่องดับเพลิงนั่นเอง 20. ตรวจดูน้ำมันเชื้อเพลิงให้เต็มอยู่เสมอ น้ำมันเครื่องให้อยู่ในขีดเต็ม น้ำกลั่นในแบตเตอรี่เต็มขีดบนสุด มีหม้อแปลงอัดไฟให้กับแบตเตอรี่วันละ1ชม. 20.2. เป็นเรื่องของความพร้อมในทุกอย่างที่ต้องใช้งานดับเพลิง เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดเมื่อไร 21. เมื่อจะซ่อมเครื่องยนต์เช่นถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรอง เปลี่ยนสายพาน หรือปะเก็นแกนปั๊มต้องทำให้เสร็จในวันเดียว!!! ห้ามค้างคืนเพราะเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้เกิดความเสียหาย กับบริษัทมากมาย 21.1 เคยมีเหตุที่พนักงานถ่ายน้ำมันเครื่องดับเพลิง แล้วไปเปิดน้ำมันที่สโตร์ พอดีน้ำมันหมด บอกว่าพรุ้งนี้มาเอา คืนนั้นเกิดเพลิงไหม้ เครื่องดับเพลิงนั้นก็มีคนมาติดเพื่อใช้ดับเพลิง เพียง10นาที เครื่องยนต์ก็นอค์ดับเครื่องก็พังไฟก็ไหม้บริษัททั้งหมด...... 22. เปลี่ยนอะไหล่ตามอายุที่กำหนดเช่น แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง น้ำมันในห้องลูกปืนปั๊ม ไส้กรองน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันโซล่า ไส้กรองอากาศ 22.1 เรื่องอะไหล่ เช่นถ่านน้ำมันเครื่อง หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ควรเปลี่ยนตามเวลาเช่น แบตเตอรี่ถึงจะมีไฟอยู่บ้าง แต่ไม่สมบูรณ์ก็ต้องเปลี่ยนทิ้ง เพราะถ้าเกิดเพลิงไหม้แล้วเครื่องไม่ติดเพราะแบตมีไฟอ่อน มันไม่คุ้มกันเลยครับ ∞∞∞∞จบขั้นตอนของการติดตั้ง บำรุงรักษา∞∞∞∞ ตอนต่อไปเป็นการเริ่มต้นการใช้งานครับ โปรดติดตามครับ

ปั๊มน้ำ รุ่นมัลติสเตจ 5 ใบพัด 170HP เหมืองหิน

Tue, 07 Jan 2014 17:33:27 +0700

เรื่องมุ้งเขียว ต้นเหตุปัญหามากมาย!!!!! ภัยร้ายที่คาดไม่ถึง

Tue, 12 Apr 2011 12:27:32 +0700

เรื่องมุ้งเขียว ต้นเหตุปัญหามากมาย!!!!! ภัยร้ายที่คาดไม่ถึง ชาวสวน มองมุ้งเขียวเป็นเพื่อนที่ดี ใช้ได้สารพัดอย่าง แถมราคาถูก อีกต่างหาก ความจริงก็น่าจะเป็นเช่นนั้นถ้าใช้มันให้ถูกต้องตามคุณสมบัติของมัน แต่วันนี้ไม่ใช่ ชาวสวนใช้มันในทางที่ผิด เอาไปหุ้มหัวกระโหลกดูดปั๊มน้ำ กันขยะ ตะกอนเข้าปั๊มน้ำ เอาเข่ง หลัว หุ้มด้วยมุ้งเขียว เอาท่อดูดกระโหลกใส่ไว้ข้างใน!!!!! คิดว่ากันขยะเศษผงได้ดีเยี่ยม รวมถึงใช้แทนกรองน้ำแบบแผ่นดีส ที่ ราคาแสนแพง ได้ด้วย ลงทุนมุ้งเขียวไม่กี่ร้อยบาท ประหยัดได้หลายหมื่นเลย สุดคุ้มหลายเท่า ผลร้ายที่ตามมาอย่างเงียบๆๆ 1 ถ้าหุ้มที่กระโหลกดูดน้ำจะตันเร็วมากเพราะมีเนื้อที่น้ำเข้าน้อย จะมีเมือกน้ำผสมกับเศษตะกอนเหนียวติดที่มุ้งเขียว เกิดการอุดตันทำให้ปั๊มน้ำได้น้อยใช้เวลาให้น้ำนานกินน้ำมัน หรือไฟฟ้าเป็นสองเท่า 2 เมื่อน้ำไม่แรง ก็เอาปั้มมาซ่อม เปลี่ยนลูกปืน ซีล ปะเก็น ประกอบ เอาไปใส่ น้ำก็ไม่แรง เปลี่ยนร้านซ่อมใหม่คิดว่าเก่งกว่าร้านเก่า เอาไปใส่ น้ำก็ไม่แรง 3 คิดว่าปั๊มเสื่อม ซื้อปั้มเปลี่ยนใหม่เลย คราวนี้เปลี่ยนท่อดูดและกระโหลกใหม่ และหุ้มมุ้งเขียวใหม่ ใส่เข่งเหมือนเดิมคราวนี้น้ำแรงดีเหมือนเดิม 4 ใช้ไป 3-4 เดือนน้ำก็ไม่แรงอีกคราวนี้ไม่ซ่อมแล้วเพราะงานเยอะไม่มีเวลาต้นไม้ต้องการน้ำหยุดไม่ได้ต้องใช้ไปก่อน หมดงานแล้วค่อยซ่อม 5 หมดงานแล้วเอาปั๊มน้ำออกมาซ่อม ถอดปั๊ม ใบพัด ห้องน้ำ ถูกน้ำกัดทะลุเสียหายหมดทั้งตัว ซ่อมไม่ได้ต้องทิ้งซื้อปั๊มใหม่ อีกตัว!!!!! ครับนี่คือสาเหตุที่ใช้มุ้งเขียว ปัญหาจาก ข้อ 1 2 3 ปั๊มมันไม่ได้เป็นอะไรเลยที่น้ำมันไม่แรงก็เกิดเพราะมุ้งเขียวมันอุดตัน ถ้าจะให้หายก็ถอดมุ้งเขียวออกมาล้างก็หายน้ำก็จะแรงเหมือนเดิม แต่จะมีสักกี่คนที่รู้สาเหตุ รวมถึงคนที่รู้แล้วแต่ไม่ทำ เพราะมันทั้งเปียก ทั้งเลอะ แถมคันอีกด้วย คิดว่าน้ำมันออกแล้วก็ช่างมันเถอะ ถ้าเป็นลูกจ้างด้วยถ้าไม่จี้ไม่ทำแน่นอน ผลที่ร้ายไปกว่านั้น ก็คือคิดว่ามันใช้แทนกรองน้ำแบบดีสได้ ถ้าจะให้ละเอียดมากๆๆๆก็หุ้มมุ้งเขียวมันสามชั้นเลยเป็นไงใช้ได้มะวะ!!! การใช้กรองดีสก็เพื่อให้น้ำสะอาด นำไปใช้ในระบบมินิสปริงเกอร์ หรือระบบน้ำหยดทำให้หัวน้ำไม่ตัน ทำให้ระบบการให้น้ำมีประสิทธิภาพ ยาวนาน กรองดีส เขาลงทุน ทดลอง วิจัย หลายสิบปี เป็นเงิน หลายร้อยล้านบาท จึงสำเร็จเป็นกรองดีสที่มี มาตราฐานรับรอง จึงทำ ออกมาขาย แต่ถ้าใช้มุ้งเขียวแทนกรองดีสไม่สามารถกรองน้ำอย่างมีประสิทธิภาพได้ นอกจากปั๊มน้ำจะเสียหายแล้ว ในไม่ช้าหัวน้ำหยด หรือหัวมินิสปริงเกอร์ ก็จะตันหมดทั้งสวน ระบบการให้น้ำก็จะล้มเหลวเป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาว่าระบบให้น้ำมินิหรือน้ำหยดใช้ไม่ได้ สรุปสุดท้าย เสียเงิน เสียเวลา เสียแรง แล้ว ท่านคงรู้จักมุ้งเขียวมากกว่าเดิม ใส่ใจ ดูแลเอาใจใส่อีกนิดเดียวปัญหาต่างๆๆก็จะหมดไป ขอให้มีความสุขกับการทำสวนในปีใหม่นี้นะครับ สวัสดีครับ

รูปแพปั๊มน้ำขนาดเล็ก 5x4 ม.

Tue, 30 Nov 2010 19:08:03 +0700

รูปแพปั๊มน้ำขนาดเล็ก ตามที่ท่านขอมา มีหลายแบบตามความชอบของท่าน แบบแพที่ชาวบ้านทำกันเอง มองดูภาพรวมก็ใช้ได้ ประหยัดดี ค่าถัง 4ใบ กับค่าท่อเหล็กประมาณอยู่ที่3000บาทค่าเชื่อมประกอบ ค่าลวดเชื่อม ค่าไฟ ไม่เกิน 1000 บาท จะถูก จะแพง กว่านี้อยู่ที่ความสามารถแล้วครับ แบบแพที่ผมเขียนนี้ เป็นแบบ ที่พัฒนาปรับปรุงมาหลายครั้ง เน้นความเรียบง่าย สวยงาม แข็งแรง ราคาไม่แพง แต่มีความสามารถ รับน้ำหนัก ได้มากหรือน้อย ตามต้องการโดยไม่ต้องเสริมแต่งโครงแพใหม่ จะใช้ถัง 4 ใบ 6 ใบ 8ใบได้ไม่มีปัญหาต้องเสริมโครงแพจากรูปโครงแพที่ออกแบบ จะใช้ท่อ ขนาด 1-นิ้วถึง1 ½ นิ้วตามแต่กำลังเงิน ท่อเหล็กที่จะใช้เป็นท่อดำก็ถูกหน่อย ถ้าเป็นท่อน้ำชุบซิ้ง กันสนิมก็แพงหน่อยผมประเมินเป็นท่อน้ำค่าท่อประปา 1 1/2นิ้ว 10 เส้นอยู่ที่ 5000บาท บวกค่าเชื่อมประกอบ ค่าลวด ค่าไฟ ค่าสี อยู่ที่ 1500 บาท ค่าถัง 200 ลิตร 4ใบ พิเศษใส่โฟมด้วยกันถังยุบ ถังรั่ว มีโฟมไม่จมแน่นอน ราคาใบละ 700 บาท 4 ใบ 2800 บาท รวมเป็นเงินต้นทุนค่าทำแพ 9300 บาท ค่าเหล็ก ค่าน็อตแท่นปั้มน้ำอีก700บาท รวม 10000 บาทพอดี แพนี้รับน้ำหนักได้ 200-500 ก.ก.ได้ ครับ ผมเสนอแพให้ท่านสมาชิกแล้ว ขอให้สนุกกับการต่อแพนะครับ ttop

แบบ แพชาวบ้านรับน้ำหนักได้ 1000 กก

Tue, 30 Nov 2010 16:28:08 +0700

แพแบบชาวบ้านรับน้ำหนักได้ 1000 กก เป็นแพขนาดกลางๆๆใส่เครื่องดีเซล 4สูบ แบบแพชาวบ้านใช้ท่อน้ำประปา คาดสีฟ้า เชื่อมเป็นโครงตามแบบที่วาดด้วยฝีมือ อ.จ. เองมาให้ดูอย่างละเอียด ใช้ท่อไปประมาณ 20 เส้น ราคาเส้นละ900 บาทเป็นเงิน18000บาท แผ่นพื้นเหล็กลายตีนไก่หนา 2 มิล 4X8ฟุต2แผ่น ราคาแผ่น3000 บาท ใช้ถังพลาสติก 200 ลิตร์ ใส่โฟม-16ใบ ใบละ 700 บาท 11200บาท ค่าเหล็กทำ สะพาน+หลังคาอีก 5000 บาท.. ค่าเหล็กเสริมกันพื้นอ่อนค่าน็อตค่าสี 2800บาท รวม40000บาท ค่าแรง ค่าลวดเชื่อม ค่าไฟ หินเจียร์ประกอบ 10000บาท รวมเป็นเงินค่าทำแพทั้งหมด 50000 บาท เป็นราคากลางๆๆ จะถูกหรือแพงกว่านี้ก็อยู่ที่ความสามารถของท่านแล้ว ติดตามแพแบบต่อไปขนาด4x3 เมตร รับ น้ำหนัก ได้ 500 กก ราคาย่อมเยาว์กว่านี้มาก สวัสดีครับ ttop

ไล่ความชื้นรถจมน้ำ !!!

Sat, 30 Oct 2010 09:30:36 +0700

ไล่ความชื้นรถจมน้ำ !!! ผมเห็น ใจผู้ประสบภัย น้ำท่วมทุกท่าน ขอเป็นกำลังใจให้ท่านผ่านไปได้ด้วยความปลอดภัย ผมทราบดี ท่านที่มีรถถูกน้ำท่วมมิดทั้งคัน!!!!! มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก เหมือนเสียรถไปแล้วทั้งคันทำยังไงถึงจะเอาน้ำออกจากรถได้หมดทุกซอกทุกมุม ลื้อรถหมดทั้งคัน หลับตานึกภาพ ใครที่ไหนจะทำให้เรา ฟองน้ำ พรม สักหลาดจะเอาน้ำออกหมดได้ยังไง เฮ่อ นึกไม่ออก ................ ผมมีวิธีไล่ความชื้นออกจากรถได้หมด ทุกซอกทุกมุมได้โดยไม่ต้องลื้อรถ!!!!! จะว่าง่าย หรือยากท่านลองดูวิธีการแล้วค่อยตัดสินใจ ย่อมเป็นสิทธ์ของท่าน หา ซื้อตู้เหล็กคอนเทรนเนอร์ 1 ใบซ่อมอุดรูรอยรั่วให้หมด เน้นต้องไม่รั่วเลย เอาปั้มดูดอากาศในตู้ออกติดมิเตอร์วัดแรงดูดให้ขึ้นเกินครึ่ง (50-75มิลลิเมตรปรอท) ข้อสำคัญต้องถ่าย น้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์น้ำมันเบล็ค ออกให้หมดก่อนเข้าตู้ ครับ เอารถถอดสิ่งที่ถอดได้ออกไม่ต้องถอดเบาะ ออก เอารถยนต์เข้าตู้คอนเทรนเนอร์ เอาฮีตเตอร์ หรือเครื่องทำความร้อนแบบคลื่นความร้อนติดตั้งไว้ในตู้ ติดมิเตอร์วัดอุหภูมิ และวัดความชื้น ติดตั้งไว้ในตู้ติดกระจกให้มองเห็นนอกตู้ได้ จากนั้นปิดตู้ให้สนิทมีรูมีร่องอุดให้หมด ต่อไปก็ดูดอากาศออกจากตู้ให้มิเตอร์วัดสุญญากาศขึ้นที่ 50—75 มมปรอท แล้วเริ่มให้ความรอ้นไปเรื่อยๆๆจนความร้อนขึ้นถึง 40-50 องศา น้ำในรถจะระเหยออกมาเป็นไอ ปั้มจะดูดอากาศและไอน้ำออกมาออกมาเรื่อยๆๆจนหมดทุกซอกทุกมุมเลยเชียว555 ระหว่างที่ปั้มอากาศอยู่ต้องรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 40-50 องศาตลอด ความรอ้นจะทำให้น้ำที่อยู่ในรถระเหยออกมาในสภาวที่แรงดันอากาศต่ำ ถ้าแรงดันอากาศต่ำกว่า หนึ่งบรรยากาศน้ำจะเดื่อดที่ 60 องศาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้น้ำที่อยู่ในรถระเหยออกมาหมดทุกซอกทุกมุม ครับ แต่เรื่องวงจรอีเลคทรอนิคต้องไปแก้เอาเองครับ คิดว่าไล่ความชื้นออกไปหมดแล้วคงจะทำง่ายขึ้นนะครับ ขอให้มีความสนุกกับการซ่อมรถนะครับ ttop

คู่มือปั๊มน้ำพื้นฐาน

Tue, 25 Jun 2019 10:21:50 +0700

คู่มือปั๊มน้ำเล่มนี้จัดทำขึ้นโดยคุณเชาว์ สงวนศักดิ์ เป็นคู่มือที่อ่านเข้าใจง่าย เป็นภาษาแบบชาวบ้านๆ หากผู้ศึกษาพบข้อสงสัย มาพูดคุยกันได้ใน เว็บบอร์ดได้นะคะ

เรื่อง ท่อ ท่อ

Mon, 20 Apr 2009 11:25:50 +0700

เรื่องท่อน้ำ เป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องเน้น ความจำเป็นที่จะต้องใช้ท่อน้ำอย่างถูกต้องเพราะว่าคนส่วนมาก ยังใช้ท่อน้ำผิดพลาดบ่อยครั้ง ก่อให้เกิดความเสียหาย จะแก้ไขกำลังซื้อก็ไม่เพียงพอ จำต้องทนใช้ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น ตัวอย่างการใช้ท่อน้ำอย่างผิดๆ มีโรงเรียนแห่งหนึ่งต้องการใช้น้ำ 200 คิวต่อวัน สระน้ำอยู่ไกลจาโรงเรียน 1000 เมตร ใช้ท่อส่งน้ำขนาด Æ 2” ยาว 1000 เมตร ใช้เวลา 10 ชม. ได้น้ำ 200 คิว / เมตร กินน้ำมัน 60 ลิตร เป็นเวลา 1 ปี ปั๊มน้ำก็เสีย ผมจึงจึงไปซ่อมเครื่องปั๊มและแก้ระบบท่อน้ำใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนท่อเป็น Æ 4” ยาว 1000 เมตรแทนขยายท่อดูดจาก 4” เป็น 6” เมื่อเดินเครื่องใหม่เครื่องใช้เวลาเพียง 2 ชม. ก็ได้ 200 คิว เท่าตอนแรก เป็นเวลาเร็วกว่าเดิม 8 ชม. นอกจากนี้จากที่เคยเสียค่าน้ำมัน 1000 บาทต่อวัน เหลือเพียง 200 บาท ถูกกว่า 5 เท่าจากของเดิม รู้เช่นนี้แล้ว อยากจะลองจัดระบบท่อน้ำใหม่บ้างไหมครับ อีกตัวอย่างหนึ่ง มีหัวข้อที่ว่า ไม่มีท่อดีราคาถูก แน่นอนครับของถูกและดีคงจะหายาก คิดในแง่เหตุผล เมื่อลดต้นทุนก็ต้องลดคุณภาพ เช่น ท่อที่บางทนแรงดันน้ำได้น้อยกว่าที่จะใช้ท่อรีไซเคิล ผลคือท่อแตก ต้องซื้อใหม่ด้วยราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากทำยากขึ้นเพราะมีท่อเก่าขวางทางอยู่ ขอฝากไว้พิจารณากันครับ ขนาดท่อน้ำที่ให้น้ำผ่านได้มาตราฐาน ขนาดของท่อ (นิ้ว) ปริมาณน้ำผ่าน(ม3/ชม.) ปริมาณน้ำผ่าน (ลิตร/ชม.) 1 6 6000 1.5 10 10000 2 18 18000 3 35 35000 4 60 60000 5 80 80000 6 100 100000 8 160 160000 10 250 250000 12 400 400000 14 500 500000

กรองดีส

Thu, 02 Apr 2009 13:32:35 +0700

สวนส้มสิทธิวงศ์ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ฟาร์มไก่คุณสมเกียรติ

ปั๊มน้ำ

Tue, 06 Jul 2010 14:21:37 +0700

ปั๊มดูดเลนพร้อมเครื่องยนต์ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งจำกัด (มหาชน)

แพปั๊มช่วยได้

Mon, 17 Aug 2009 17:40:02 +0700

ประโยชน์ของแพปั๊ม1. ทำให้ปั๊มสูบน้ำได้ประสิทธิภาพสูงสุด 2. เมื่อน้ำขึ้น หรือน้ำลง แพจะเป็นตัวปรับระดับ ทำให้ได้น้ำในประสิทธิภาพสูงสุด3. ระบบดูด ซีล ปะเก็นแกนปั้๊มจะทนทาน ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำรั่วหรือน้ำไม่ขึ้น4. สามารถย้ายแพไปปดูดตรงน้ำลึกได้เมื่อน้ำเริ่มแห้ง5. การสูบน้ำที่ไห้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นก็หมายถึงการประหยัดพลังงานไปด้วยถึง 15%6. ระบบการให้น้ำที่ดีต้องมีกรองดิสด้วย7. รวมถึงการมีถังสะสมแรงดันน้ำ ทำให้ส่งน้ำได้ไกล และมีแรงดันสม่ำเสมอรูปด้านล่างเป็นตัวอย่างแพปั๊มครับ มีทั้งแบบที่ชาวบ้านทำเอง แล้วก็แบบที่เรารับทำ สนใจติดต่อคุณเชาว์ 081-8339043

ความรู้เรื่องปั๊มที่คุณควรรู้

Mon, 05 Jul 2010 19:24:37 +0700

บทความเหล่านี้เขียนโดยคุณเชาว์ สงวนศักดิ์ ท่านผู้บริหาร บริษัทศักดิ์ศิริ อุตสาหกรรม ชลบุรี 2004 จำกัด และท่านยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีระบบน้ำ ที่เขียนคอลัมภ์เทคโนโลยีระบบน้ำในนิตยสารเคหะเกษตรอีกด้วย #กังหันลมดีจริงหรือ #ความลับของปั๊มน้ำ #สุดยอดวิธิประหยัดพลังงาน #ปั๊มน้ำสองใบพัด#การใช้ปั๊มชักส่งน้ำเก็บไว้ที่สูง#มารู้จักปั๊มบาดาลกันดีกว่า#ปั๊มบาดาลเป็นยังไงนะ#ชุบชีวิตสวนที่ร่วงโรยให้รุ่งโรจน์#ใช้แก๊สแทนน้ำมันจะดีหรือ#เครื่องปั๊มน้ำใช้แก๊สอย่างถูกต้องเป็นอย่างไร#ปั๊มน้ำแบบลูกสูบเชิงลึก#เครื่องดีเซลใช้แก๊สได้อย่างไร#ใช้แก๊สแทนน้ำมันในเครื่องสูบได้อย่างไร